แชร์ภาพหน้าจอบุคคลเข้าข่าย หมิ่น ละเมิด หรือไม่
Last updated: 5 มิ.ย. 2568 | 213 จำนวนผู้เข้าชม |
แชร์ภาพหน้าจอบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาตเข้าข่าย หมิ่น ละเมิด หรือไม่?
การแคปหน้าจอแชตส่วนตัวแล้วทำการเผยแพร่ต่อสาธารณะ โดยไม่ได้ขออนุญาตอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายหลายทาง หากข้อความนั้นทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียงอาจถูกฟ้องหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 ถึง มาตรา 328 หากเป็นข้อมูลเท็จหรือตัดต่อแล้วยังส่งต่อ อาจละเมิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 และหากเผยข้อมูลที่ระบุตัวบุคคลโดยไม่มีฐานกฎหมายชอบด้วย PDPA ก็เสี่ยงโทษปรับและจำคุก พร้อมความรับผิดทางแพ่งฐานละเมิดเรียกค่าเสียหายได้อีกด้วย ดังนั้นควรขออนุญาตผู้เกี่ยวข้อง เบลอข้อมูลส่วนตัว และแชร์เท่าที่จำเป็น
อธิบายกฎหมายที่อาจเข้าข่ายความผิดเมื่อมีการแชร์ภาพสกรีนช็อตแชต โดยไม่ขออนุญาต
1.หมิ่นประมาท (ประมวลกฎหมายอาญา)
1.หมิ่นประมาท (ประมวลกฎหมายอาญา)
เมื่อโพสต์ข้อความหรือรูปที่ทำให้เจ้าของแชตเสียชื่อเสียงต่อสาธารณะมีความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ
เมื่อมีการแชร์ข้อมูลเท็จ ตัดต่อ บิดเบือน หรือปลอมแปลงข้อมูล จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย อาจมีความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และอาจต้องรับโทษทางอาญา สูงสุดจำคุก 5 ปี และปรับ 100,000 บาท
3.พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)
เมื่อมีการเปิดเผยชื่อ เบอร์โทร รูป หรือข้อมูลใดที่ระบุตัวบุคคลได้ โดยไม่ได้รับความยินยอม หรือเหตุผลทางกฎหมายรองรับ มีโทษทางอาญาสูงสุดจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ ไม่เกิน 1 ล้านบาท
4.ความรับผิดทางแพ่ง (ละเมิด)
หากการโพสต์ทำให้เจ้าของแชตสูญเสียรายได้ หรือ ชื่อเสียง สามารถถูกฟ้องให้ชดใช้ค่าเสียหายและค่าทนายได้
หากการโพสต์ทำให้เจ้าของแชตสูญเสียรายได้ หรือ ชื่อเสียง สามารถถูกฟ้องให้ชดใช้ค่าเสียหายและค่าทนายได้
วิธีลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย
1. ควรขออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร เช่น อาจมีการแชตยืนยัน ก่อนเผยแพร่
2.เบลอหรือลบข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ รูปโปรไฟล์ ให้เห็นเฉพาะเนื้อหาที่จำเป็น
3. อย่าแก้ไขหรือตัดต่อจนทำให้ข้อมูลผิดไปจากความจริง
4.จำกัดวงผู้เห็น แชร์เฉพาะคนที่จำเป็น เช่น ทนาย ที่ปรึกษา ไม่โพสต์สาธารณะโดยไม่จำเป็น
1. ควรขออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร เช่น อาจมีการแชตยืนยัน ก่อนเผยแพร่
2.เบลอหรือลบข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ รูปโปรไฟล์ ให้เห็นเฉพาะเนื้อหาที่จำเป็น
3. อย่าแก้ไขหรือตัดต่อจนทำให้ข้อมูลผิดไปจากความจริง
4.จำกัดวงผู้เห็น แชร์เฉพาะคนที่จำเป็น เช่น ทนาย ที่ปรึกษา ไม่โพสต์สาธารณะโดยไม่จำเป็น
ตัวอย่างคำพิพากษาฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2778/2561 ชี้ขาดว่า เมื่อ พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มีผลใช้ 24 พฤษภาคม 2560 และแก้ไขมาตรา 14(1) ให้ ยกเว้นการกระทำที่เป็น หมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ออกจากองค์ประกอบความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีที่จำเลย ผู้บริหารเว็บไซต์ manager.co.th เผยแพร่ถ้อยคำปราศรัยหมิ่นโจทก์ในเว็บจึงเข้าข่ายเพียง ความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 แต่ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 14(1) หรือ 14(5) ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ศาลฎีกาจึงพิพากษายืนโทษปรับ 60,000 บาทฐานหมิ่นประมาท และยกฟ้องข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยอาศัยหลัก ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 2 วรรคสอง โดยกฎหมายภายหลังที่ให้องค์ประกอบแคบกว่าใช้ย้อนหลังเป็นคุณ และตอกย้ำว่าแม้คู่ความไม่ฎีกา ศาลมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เพราะเป็นเรื่องความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1612/2564 วางหลักว่า หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อข้อความหมิ่นถูกเผยแพร่สู่สาธารณชนวงกว้าง แต่หากจำเลยเพียงส่งข้อความกล่าวหา ซึ่งเข้าข่ายใส่ความ ลงใน กลุ่ม LINE ปิด ที่ประกอบด้วยสมาชิกไม่มากและไม่มีบุคคลภายนอกร่วมด้วย การสื่อสารดังกล่าวถือเป็นเพียงการ แจ้งหรือไขข่าวเฉพาะกลุ่ม จึงไม่ถึงขั้นโฆษณาผลคือจำเลยพ้นผิดตามมาตรา 328 แต่ยังคงมีความผิดฐานหมิ่นประมาททั่วไปตามประมวลกฎหมายมาตรา 326 ซึ่งกำหนดโทษเบากว่า ศาลฎีกาจึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ให้ลงโทษในความผิดอาญามาตรา 326 เท่านั้น พร้อมย้ำว่าแนววินิจฉัยนี้สอดคล้องกับฎีกา 5276/2562 ที่ตีความเรื่อง “วงผู้รับ” เช่นเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3877/2565 วินิจฉัยว่า การที่จำเลยโพสต์ภาพที่ดินพร้อมข้อความ ว่า “ล้อมรั้วในที่หลวง” ลง Facebook ของตนเอง แม้ไม่ระบุชื่อโจทก์ตรง ๆ แต่เมื่อจำเลยตอบคอมเมนต์ว่า “คือคนข้างบ้าน” จนเพื่อนบ้านเข้าใจได้ทันทีว่าเป็นโจทก์ ก็ถือว่าระบุตัวได้และเข้าข่ายหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 อย่างไรก็ดี เนื่องจากโพสต์ดังกล่าวเปิดให้เห็นเฉพาะกลุ่มเพื่อนใน Facebook ไม่ได้กระจายสู่สาธารณชน จึงไม่เป็นความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 และศาลยังปฏิเสธข้ออ้างเรื่องแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตตามประมาวลกฎหมายอาญามาตรา 329 เพราะหากต้องการร้องเรียนเรื่องที่ดินสาธารณะจริงก็มีช่องทางราชการอื่น ไม่จำเป็นต้องโพสต์กล่าวหาบนโซเชียล
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
จะเริ่มธุรกิจทั้งที ต้องรู้กฎหมายบริษัทอะไรบ้าง?
27 พ.ค. 2568
กฎหมายเกี่ยวกับคุ้มครองผู้บริโภคที่ประชาชนควรรู้
21 ส.ค. 2566
ขั้นตอนการซื้อบ้านจัดสรรอย่างปลอดภัย มั่นใจก่อนซื้อ
16 มิ.ย. 2568
Powered by
MakeWebEasy.com